ปวดหัว เป็นอาการทางระบบประสาทที่พบบ่อย มักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสงสว่างจ้า
แต่บางครั้งปวดหัวอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง เช่น เนื้องอกในสมอง หลอดเลือดสมองตีบ หรือความดันโลหิตสูง
บทความนี้ จะพาทุกท่านไปรู้จัก อาการปวดหัวแบบอันตราย ที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ทุกท่านสามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อไหร่ที่ปวดหัวแล้วต้องรีบพบแพทย์?
ปวดหัวแบบเฉียบพลัน รุนแรง ปวดหัวแบบจู่ๆ รุนแรงเหมือนโดนอะไรทุบ หรือปวดเหมือนมีเข็มแทง
ปวดหัวร่วมกับอาการอื่น เช่น คอแข็ง ไข้ ซึม อ่อนแรง ชัก มองเห็นภาพซ้อน พูดลำบาก
ปวดหัวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน: ปวดหัวแบบผิดปกติ ต่างจากที่เคยเป็น
ปวดหัวหลังได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาความผิดปกติ
ปวดหัวเรื้อรัง ปวดหัวต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน
ตัวอย่างอาการปวดหัวแบบอันตราย
ปวดหัวแบบคลัสเตอร์ ปวดหัวข้างเดียว รุนแรง มักเกิดเวลากลางคืน พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
ปวดหัวจากไซนัสอักเสบ ปวดหัวบริเวณรอบดวงตาหรือจมูก คันจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ
ปวดหัวจากไมเกรน ปวดหัวข้างเดียว รุนแรง มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไวต่อแสงเสียง
ปวดหัวจากความดันโลหิตสูง ปวดหัวตุบๆ ทั่วศีรษะ มักเกิดตอนเช้า ร่วมกับอาการใจสั่น มองเห็นแสงวาบ
ปวดหัวจากเนื้องอกในสมอง ปวดหัวเรื้อรัง ค่อยๆ รุนแรงขึ้น อาจมีอาการอื่นร่วม เช่น อาเจียน ชัก อ่อนแรง
สาเหตุของอาการปวดหัว
สาเหตุของอาการปวดหัว แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1. สาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรง
ความเครียด ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งสารเคมีที่กระตุ้นให้เส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้ปวดหัว
พักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ส่งผลให้ปวดหัว
การดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำให้น้ำในร่างกายลดลง ส่งผลให้ปวดหัว
แสงสว่างจ้า แสงสว่างจ้ากระตุ้นให้เส้นเลือดในสมองขยายตัว ส่งผลให้ปวดหัว
ยาบางชนิด ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด ยาคุมกำเนิด ยาขับปัสสาวะ อาจทำให้ปวดหัวเป็นผลข้างเคียง
การดมกลิ่นแรงๆ การดมกลิ่นแรงๆ เช่น ควันบุหรี่ น้ำหอม อาจทำให้ปวดหัว
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิง เช่น ประจำเดือน ตั้งครรภ์ อาจทำให้ปวดหัว
2. สาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรง
ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูงทำให้เส้นเลือดในสมองขยายตัว ส่งผลให้ปวดหัว
โรคหลอดเลือดสมองแตก โรคหลอดเลือดสมองแตกทำให้เลือดออกในสมอง ส่งผลให้ปวดหัวแบบเฉียบพลัน รุนแรง
การติดเชื้อ การติดเชื้อในสมองหรือเยื่อหุ้มสมอง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ส่งผลให้ปวดหัวร่วมกับอาการอื่น เช่น ไข้ คอแข็ง ซึม อ่อนแรง
โรคทางระบบประสาท โรคทางระบบประสาทบางชนิด เช่น โรคชัก โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ อาจทำให้ปวดหัวเป็นอาการ
การป้องกันอาการปวดหัว
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ลดความเครียด
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ
การวินิจฉัยสาเหตุของอาการปวดหัว
แพทย์จะวินิจฉัยสาเหตุของอาการปวดหัวโดยพิจารณาจาก
อาการของผู้ป่วย ประเภทของอาการปวดหัว ระยะเวลา ตำแหน่ง ความรุนแรง อาการอื่นๆ ร่วมด้วย
ประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว ยาที่ทาน ประวัติการแพ้ยา
การตรวจร่างกาย ตรวจวัดความดันโลหิต ตรวจระบบประสาท
การตรวจเพิ่มเติม ตรวจเลือด เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เอกซเรย์แม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
การรักษาอาการปวดหัว
การรักษาอาการปวดหัวขึ้นอยู่กับสาเหตุที่พบ
ยา ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ ยาลดความดันโลหิต
การรักษาเฉพาะโรค เช่น การผ่าตัดเนื้องอกในสมอง การใช้ยาละลายลิ่มเลือดในกรณีหลอดเลือดสมองตีบ
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ลดความเครียด
อาการปวดหัว อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง หากมีอาการปวดหัวแบบอันตราย ควรไปพบแพทย์ทันที
บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อเรา CMNH หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาเกี่ยวกับบริการดูแลผู้ป่วยสามารถติดต่อเราได้ที่ เชียงใหม่เนิร์สซิ่ง โฮม แคร์ ศูนย์ดูแลฟื้นฟูผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ด้านระบบประสาทและสมอง
รับคำปรึกษาด้านการรักษาดูแลผู้ป่วย
Tel. : 089-810-3889 , 080-124-8695
LINE OA : @lfk7059w หรือ https://lin.ee/obaGB9Z
Website: https://chiangmainursinghome.com/
Comments